เหตุที่ไม่ใช่แค่คน

ก็เพราะไม่ใช้ว่าจะมีแต่เรื่องราวที่มีผู้ดำเนินเรื่องเป็นแค่คนอย่างเดียวนี่ เลยไม่ใช้แค่(เรื่องของ)คน

ก็เพราะเป็นเรื่องราวอะไรบ้างก็ไม่รู้ที่เอามาเทๆรวมกัน ครั้นพอจะรวมให้เป็นเรื่องเดียวกันแค่จะเอาไม้พายมาคนๆแค่นั้นมันเห็นจะไม่พอ อาจต้องใช้วิธีตัดแปะ จับเพาะชนเกะ จนมันพอจะอ่านเป็นเรื่องเดียวกันแต่ในอารมณ์แบบ "หือ มันมาจากเหตุนี้เหรอ"

แค่เปิดหน้าก็น่างงแล้ว เรื่องราวข้างในอาจงงงวยยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ในวันฝนตก ลูกนกเปียกซก















วันนี้ฝนตกทั้งวันตกเช้ารอบนึงแล้วก็หยุดไป ฟ้ายังครึ้มอยู่ จนช่วงสายๆก็กระหน่ำลงมาอีกเซ็ต ไม่ให้ซุ่มให้เสียง มาอย่างรวดเร็ว แล้วก็ไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากฝนหยุดแล้วก็เดินไปดูไก่ที่เลี้ยงไว้หลังบ้าน (ดูว่ามันโดนฝนหรือเปล่า) แต่ระหว่างทางก็เหลือบไปเห็นไอ้ตัวนี้เข้า
ตอนแรกก็มองๆอยู่ อ่าวมันเปียกนี่นา ดูท่าจะยังไปไหนไม่ได้ ยังเป็นลูกนกเอ๊าะๆอยู่ด้วย ด้วยประสบการณ์ เจอภัยมาไม่รู้ตัวได้แต่ยืนเกาะกิ่งไม้ตัวสั่นอยู่อย่างนั้น
"เสร็จสิงานนี้"เมื่อดูท่าว่าไปไหนไม่รอดอย่างนี้แล้วเลยรีบวิ่งเข้าบ้านไปหยิบกล้องมาถ่ายรูปซะเลย

เริ่มด้วยการแอบถ่ายไกลๆก่อน แล้วค่อยขยับเข้าไปใกล้ๆ

ขณะถ่ายก็วางแผนไปด้วยว่าจตะช่วยเหลือมันยังไงดู ดูท่าจะยังบินไม่เป็นเสียด้วยสิ
๑)ช่วยให้มันได้บุญดีมั้ย ด้วยการให้มันได้บำเพ็ญตัวเป็นผัดเผ็ดนกเลี้ยงคนให้มีชีวิตรอดไปอีกมื้อหนึ่ง
๒)ช่วยให้มันมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยการผัดเผ็ดมันเพื่อส่งให้มันได้ไปเกิดใหม่ไม่ต้องรอ

๓)ช่วยสอนบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญให้กับมันว่า ถ้าตอนฝนตกหนักแล้วไม่ยอมอยู่กับเหย้าเฝ้ารังดีๆ อาจมีรังใหม่เป็นกระทะผัดเผ็ดได้






อ่อๆ ที่เพ้อๆไปก็แค่พูดเล่นแค่นั้นอย่างอนเลยนะ ยังไงก็แค่จะถ่ายรูปเฉยๆล่ะ ว่าแต่แกตัวใหญ่จังเลยนะ นี่แกยังบินไม่ได้อีกเหรอ แล้วนี่แกยังเป็นลูกนกอยู่ใช่มั้ย....คำถามสุดท้ายแล้วนี่แกเป็นนกกระจอกใช่มั้ย










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น